วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ผู้ใช้บริการมือถือระบบเติมเงินเตรียมเฮ!!!

หลังจากทาง กสทช. ได้ประกาศให้มือถือระบบเติมเงินไม่มีวันหมดอายุ และค่าโทรไม่เกินนาทีล่ะ 99 สตางค์ นั้น ผู้ให้บริการทั้งสามค่ายต่างออกมาบอกกันว่า ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะทุกหมายเลขที่ให้ใช้บริการอยู่นั้นมีค่าธรรมเนียมในการรักษาหมายเลข และถ้าหากไม่มีการใช้หมายเลขนั้นก็จะเสียค่าธรรมเนียมไปโดยใช่เหตุ ดังนั้น ล่าสุดทางผู้ให้บริการ AIS และ TRUEMOVE ได้มีการปรับในเรื่องการกำหนดวันหมดอายุ ไว้ที่ 30 วันต่อการเติมเงิน 1 ครั้งในเติมเงินขั้นต่ำที่ 10 บาท สามารถสะสมได้สูงสุด 365 วัน โดยให้เหตุผลว่า "ในการกำหนดวันหมดอายุเช่นนี้เพราะ จะเป็นการเช็คสถานะไปในตัวว่ายังมีการใช้หมายเลขนั้นอยู่หรือไม่ ส่วนผู้ใช้บริการ DTAC นั้นต้องอดใจรอไปก่อนและในเรื่องของการกำหนดค่าโทรนั้นยังไม่มีข้อมูลจากทางผู้ให้บริการ หากผู้ใช้บริการมีปัญหา ในเรื่องของการเติมเงินแล้วจำนวนวันไม่เพิ่มขึ้น สามารถติดต่อกับทาง call canter ของผู้ให้บริการที่ท่านใช้อยู่ หรือติอต่อได้ที่ กสทช. โทร 1200 ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลิก it24hrs.com

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คอนเฟิร์ม iPad 3 จอแสดงผล Retina

รายงานจากเว็บไซต์ MacRumors อ้างว่า พวกเขาได้มีโอกาสเห็นหน้าจอของ iPad 3 แล้ว และจากการวิเคราะห์ iPad 3 ซึ่งน่าจะอยู่ในระหว่างการผลิตขณะนี้จะมาพร้อมกับความละเอียดเป็นสองเท่าของ iPad 2 คือ 2,048 x 1,536 หรือคิดเป็นจำนวนพิกเซลที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 เท่า
สำหรับ iPad 2 ที่มีหน้าจอ 9.7 นิ้วจะมีความละเอียดแค่เพียง 1024 x 768 พิกเซล หรือคิดเป็นความหนาแน่นต่อนิ้วอยู่ที่ 132 พิกเซลต่อนิ้ว ในขณะที่ iPad 3 ที่มีความละเอียดเป็นสองเท่า หรือคิดเป็นความหนานของพิกเซลต่อพื้นที่จะอยู่ที่ 263.94 พิกเซลต่อนิ้ว ไม่ใช่ 326 พิกเซลต่อนิ้วเหมือน iPhone 4 แต่แม้จะไม่เท่ากัน แต่ด้วยความละเอียดของหน้าจอที่ทางเว็บไซต์ MacRumors ได้เห็น พวกเขาบอกว่า มันมีความละเอียดที่สูงมากๆ ซึ่งหากเป็นตามคำอ้างจริง iPad 3 จะมีหน้าจอที่แสดงผลได้คมชัดมากๆ จนคุณจะไม่สามารถมองเห็นพิกเซลจากระยะการอ่านปกติ (นิยามของ Retina Display ตามความหมายของ Apple) ข้างล่างนี้แหล่งข่าวอ้างว่า มันเป็นภาพขยายหน้าจอของ iPad 2 เทียบกับ iPad 3 ภายใต้กำลังขยายเดียวกัน
ประเด็นที่น่าคิดต่อจากนี้ก็คือ หากหน้าจอแสดงผลของ iPad 3 เป็น Retina Display จริงตามคำอ้าง มันมีความเป็นไปได้ว่า หน้าจอความละเอียดสูงนี้ อาจจะมีอยู่ใน MacBook Air 11 นิ้วรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์การทำงานด้วยโหมด HiDPI ของ OS X รุ่นใหม่ (Lion update) อีกด้วย และไม่แน่เหมือนกันที่จอแสดงผลชนิดเดียวกันนี้ อาจจะถูกนำไปใช้ในการอัพเกรด MacBook Pro 2012 ที่กำลังจะเปิดตัวออกมาในปีนี้  

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ป้องกัน"โน้ตบุ๊ก"ถูกขโมย!!!

สอบถามกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเจ้าของโน้ตบุ๊ก-เน็ตบุ๊กที่ต้องการฟรีแวร์เล็กๆ ไว้ป้องกัน หรือติดตามหาโน้ตบุ๊ก หากมันมีอันต้องอันตรธานหายไป(โดยหัวขโมย) โดยเฉพาะใครที่ใช้งานนอกสถานที่อยู่เป็นประจำ ล่าสุดนายเกาเหลาไปพบฟรีแวร์ที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง ก็เลยนำมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านอีกแล้วครับ สำหรับตัวนี้มีชื่อว่า LAlarm ลองมาทำความรู้จักความสามารถคร่าวๆ ของมันกันดีกว่า เผื่อว่าจะเหมาะคุณก็ได้ :p
หรือติดตามการถูกขโมยโน้ตบุ๊กของคุณได้ โดยสามารถส่งเสียง อีเมล์ หรือ SMS (น่าเสียดายที่โอเปอเรเตอร์บ้านเรายังไม่สนับสนุนบริการนี้?) เพื่อแจ้งให้คุณทราบ หากโน้ตบุ๊กถูกขโมย หรือเวลาที่ใครมายุ่งย่าม หรือเกาะแกะโน้ตบุ๊กของคุณ โดยเฉพาะในขณะที่เจ้าหัวขโมยถอดหน่วยความจำ USB หรือสายพาเวอร์ออก (กรณีที่ใช้ในสถานที่) นอกจากนี้โปรแกรมจะตรวจสอบ IP ของผู้ใช้ ซึ่งหากพบว่ามีการนำไปต่อเชื่อมกับเครือข่ายอื่นๆ ทั้งไร้สาย และมีสาย ก็จะส่งเสียง (เพื่อบอกให้คนแถวนั้นทราบว่า โน้ตบุ๊กถูกขโมยมา) หรือพยายามแจ้งเตือนให้คุณทราบด้วยวิธีต่างๆ ได้ 
 
LAlarm สามารถโปรแกรมให้ตอบสนองการเตือนได้หลายรูปแบบ เช่น เปิดเว็บแคม เพื่อบันทึกภาพเจ้าหัวขโมย ตลอดจนทำลายข้อมูลสำคัญๆ ในฮอาร์ดดิสก์โดยอัตโนมัติ หากถูกขโมยไป ซึ่งเจ้าของเครืองสามารถทราบได้ว่า โน้ตบุ๊กที่ถูกขโมยกำลังเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ใด หรือแม้กระทั่งได้รับอีเมล์พร้อมภาพใบหน้าของหัวขโมย หวังว่า LAlarm น่าจะถูกใจคุณผู้อ่านที่กังวลเรื่องโน้ตบุ๊กถูกขโมยนะครับ 

ที่มา : www.arip.co.th

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แฮค"จอส่วนตัว"ต้องใส่แว่นถึงมองเห็น!

คอหนังไซไฟคงจะเคยผ่านตาบางฉากของภาพยนตร์ที่พระเอกจะสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ บนจอได้ก็ต่อเมื่อมองผ่านแว่นตาที่สวมใส่เท่านั้น เนื่องจากข้อความที่แสดงบนจอภาพเป็นความลับทีไม่อาจให้คนทั่วไปล่วงรู้ได้ ล่าสุดเว็บไซต์ Instrutable ได้นำเสนอวิธีแฮคจอเก่าๆ ให้กลายเป็น Privacy Monitor มอนิเตอร์"ส่วนตัว"ที่คนทั่วไปจะมองเห็นแค่หน้าจอสีขาวสว่างเจิดจ้า ในขณะที่เมื่อสวมแว่นตาพิเศษที่มาด้วยกันจะมองเห็นทุกอย่างที่ปรากฎบนจอได้
Dimovi นักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ได้แก้ไขจอ LCD ให้กลายเป็น Privacy Monitor ได้ด้วยการดึงเอาฟิล์มโพลาไรซ์  (Polarized film) ที่อยู่ในจอออกมา แล้วนำมันไปติดบนแว่นตาแทน ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยหลักการง่ายๆ นี้จะทำให้คุณได้จอภาพมหัศจรรย์ที่ว่านี้แล้ว เชื่อว่า คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ติดตามรายงานข่าวอยู่เป็นประจำ คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Polarization กันบ้างแล้ว โดยพื้นฐานการทำงานของฟิล์มที่ว่านี้ก็คือ มันจะสามารถแยก หรือคัดกรองบางส่วนของคลื่นแสงให้สามารถลอดผ่านออกมาได้นั่นเอง ดังนั้นเมื่อดึงมันออกจากจอ LCD เราจึงมองไม่เห็นอะไรนอกจากจอแสงสว่างสีขาวเท่านั้น ในขณะที่การนำฟิล์มดังกล่าวไปติดบนแว่นตา ฟิล์มโพลาไรซ์จะเปิดเฉพาะคลื่นแสงบางส่วนผ่านเข้าไปได้ เราจึงมองเห็นภาพปรากฎขึ้นมาได้นั่นเอง (กรณีของ PlayStation 3D จะใช้ฟิล์มโพลาไรซ์ เพื่อแยกภาพของตาซ้าย และตาขวาให้มองเห็นคนละภาพ ทำให้มองเห็นภาพ 3D ขึ้นมาได้) สำหรับขั้นตอนการแฮคโดยละเอียด ตั้งแต่เริ่มถอดชิ้นส่วนไปจนถึงการตัดฟิล์มโพลาไรซ์สามารถดูได้จากเว็บไซต์ Instructables ครับ

ข้อมูลจาก http://www.arip.co.th

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แก้ปัญหา… โน้ตบุ๊กต่อกับ LCD Projector แล้วไม่เวิร์ก

ปัญหาสุดแสนจะ Classic เพราะเจอกันบ่อยมาก ยิ่งต้องไปพรีเซนงานนอกบริษัท แล้วต้องใช้ Projector ที่ไม่คุ้นมือ ทิปต่อไปนี้จะมาร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหานี้กันครับ
เริ่มจากวิธีการเชื่อมต่อที่ถูกต้อง โดยควรเปิด LCD Projector ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยเปิดโน้ตบุ๊ก ซึ่งเครื่องจะทำหน้าที่ในการจัดการเชื่อมต่อให้ภาพให้ไปแสดงที่ LCD Projector เองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่สำเร็จละก็อ่านย่อหน้าถัดไปครับ

1. กดปุ่มสลับหน้าจอ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปุ่ม Fn ตามด้วย F3 (เพื่อความถูกต้องโปรดตรวจสอบที่คู่มือใช้งาน เพราะแต่ละยี่ห้อจะใช้ปุ่มที่แตกต่างกันไปบ้าง) จากประสบการณ์พบว่าถ้ากดครั้งแรก ภาพมักจะไปแสดงที่จอ LCD Projector แต่ที่จอโน้ตบุ๊กภาพจะหายไป ตรงนี้ให้กดซ้ำอีกครั้งเพื่อให้แสดงภาพทั้งสองจอ ถ้าไม่สำเร็จลองทำข้อถัดไป
2. ดูซิว่าต่อสายระหว่างคอมพับ LCD Projector ถูกช่องหรือไม่ ปกติที่เครื่องจะมีข้อความแสดงไว้ หรือสีเป็นตัวบอกอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ลองเสียบดูทีละช่อง (เมื่อเสียบแล้วควรรอสักครู่เพื่อให้เครื่องพยายามหากันนิดหนึ่ง) หากไม่สำเร็จโปรดลองทำข้อถัดไป
3. คลิกขวาที่หน้าเดสก์ทอปเลือก Properties ที่แท็บ Settings คลิกปุ่ม Advanced ให้เลือกการ์ดจอ และคลิกหัวข้อเข้าไปกำหนดรายละเอียดในการ setup เพิ่มเติม ซึ่งจะมีหัวข้อหนึ่งเกี่ยวกับการแสดงผลหน้าจอว่าจะให้แสดงหนึ่งจอ หรือสองจอ แต่ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบบ่อยกับ LCD Projector รุ่นเก่าๆ คือไม่สามารถรองรับความละเอียดที่สูงได้ ทางแก้ไขก็คือต้องลดความละเอียดในการแสดงภาพ ถ้าเอาแบบชัวร์ก็คือลด Resolution ลงมาที่ 800 x 600 เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเชื่อมต่อโน้ตบุ๊กเข้ากับ LCD Projector ได้สำเร็จครับ